Monday, January 12, 2009

งานที่ Loxley


หายไปปีกว่าๆ ตอนนี้ผมทำงานที่ Loxley แล้วนะครับ

Friday, June 22, 2007

New Storage Idea - Staircase Drawers

ตอนนี้ผมเชื่อว่าบ้านของหลายท่านมีปัญหาความรกเพราะของเยอะแน่นอน ซึ่งผมเองก็เป็นเพราะของมันเยอะจริงๆ ไม่รู้เก็บไว้ไหนดี ถ้าย้อนกลับไปตอนออกแบบบ้าน คงบอกสถาปนิกให้ใช้ตู้และชั้นเยอะๆ พอดีไปเจอidea ของการนำเอาลิ้นชักเก่าๆมาใช้ใหม่ใน inhabitat.com ซึ่งหากบ้านใครมีบันไดโล่งๆ ก็ลองทำกันได้นะครับ หรือใครกำลังทำinterior ใหม่ ก็น่าสนใจทีเดียว

สนใจก็ click เข้าไปดูได้ที่ http://www.inhabitat.com/2007/06/11/a-brilliant-storage-idea-staircase-drawers/#more-4609 นะครับ สิ่งหนึ่งที่ผมงงก็คือ "ทำไมเราคิดไม่ได้บ้างนะ???"




Wednesday, June 13, 2007

โตขึ้น... ตั้งอยู่... และล้มไป

ต้นไม้ของชาวไอดี





เป็นสัจจธรรมของทุกสิ่ง ที่ต้องเกิดและดับ แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ครับ เมื่อต้นไม้ของชาวไอดีจุฬา ที่อยู่มายาวนาน อยู่ๆก็โค่นลงไปอย่างไม่บอกกล่าว และไม่ทำร้ายทำลายสิ่งใดๆ ขอแสดงความเสียใจอีกคนนะครับ
สำหรับรูปนั้น มาจาก blog ของ id chula นะครับ http://idchula.blogspot.com/


เนื่องด้วยวาระการที่คนไทยขัดแย้งกันมากๆๆๆ ผมขอเอาบทความของหมอประเวศ ที่ผมว่าน่าสนใจมากๆ คือได้เปรียบเทียบความเป็นไปของการแก้ไขปัญหาไว้ 2 กรณีนะครับ เชิญอ่านและพิจารณาได้

พระพุทธเจ้ายังแก้ความขัดแย้งของสงฆ์ไม่ได้ ทำไมเล่นฟุตบอลกันได้ทั่วโลก
การจะรวมตัวกันทำสิ่งใหม่ที่ดีนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าทำอะไรได้หรือไม่ได้ผลอย่างไรและใครทำ จะขอยกตัวอย่างประกอบ 2 เรื่อง

เรื่องหนึ่งคือ เมื่อครั้งพุทธกาล ครั้งหนึ่งพระสงฆ์ในกรุงโกสัมพีแตกแยกแบ่งเป็นสองพวก ทะเลาะกัน ทำอย่างไรๆ ก็ไม่หยุด พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้ามก็ไม่เชื่อ แถมยังว่าพระพุทธเจ้าอีกว่า “ขอพระผู้มีพระภาคจงขวนขวายน้อย” คืออย่าขยันมาห้ามเขาจะทะเลาะกัน พระพุทธองค์มีพุทธดำเนินหลีกเข้าป่าปาเลไลยไป เมื่อตอนมีลิงมีช้างนำของมาถวายนั่นแหละครับ ต่อมาชาวเมืองเขารำคาญเลยหยุดใส่บาตรทั้งคู่ ทำให้หมดแรงและหยุดทะเลาะกันไปได้ ประเด็นคือประชาชนเป็นผู้แก้ความขัดแย้งที่ดีที่สุด

เรื่องที่สองคือ การเล่นฟุตบอลสามารถเล่นกันได้ทั่วโลก ไม่ว่าคนเล่นจะเป็นชาติใด ภาษาใด ประเทศมีความเจริญแค่ไหน เพราะในการเล่นมีกรอบคือสนาม กติกา และกลไก ที่ชัดเจน ผู้กำกับเส้นคือผู้รักษากรอบ กรรมการคือผู้รักษากติกา ผู้กำกับเส้นและกรรมการอาจโกงได้ แต่ทำไม่ได้ เพราะมีคนดูหรือประชาชนที่เข้าใจกรอบ กติกา และกลไก คอยกำกับอีกที ประเด็นคือการมีกรอบ กติกา กลไก และมีประชาชนเป็นผู้กำกับ ทำให้การเล่นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ หากปราศจากกรอบต่อให้เอาพระอรหันต์มาเล่น เดี๋ยวก็ออกไปเล่นในป่า ถ้าปราศจากกติกา ปล่อยให้มีการจิกหัว ด่าทอ กระทืบกัน กีฬาก็จะกลายเป็นโกลาหล จลาจล ฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยจะก้าวหน้าไปได้ต้องมีกรอบ กติกา กลไก ที่ชัดเจน และมีประชาชนเป็นผู้กำกับ
ก็น่าคิดดีนะครับ ในความเห็นของผม เราคงต้องมองเรื่องที่เกิดตอนนี้เหมือนเป็นกรรมการมองเกมฟุตบอล รู้ เห็น และควบคุมสิ่งที่เกิด การวืพากษ์กันก็เป็นทางหนึ่ง อยากให้หลายๆคนได้ใส่ใจกันนะครับ

Monday, April 9, 2007

MIND MAPPING

ขอข้ามเรื่องเมาๆ มาเรื่องคิดๆ ก่อนละกันนะครับ ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นคนชอบคิดเหมือนกัน หนึ่งในวิธีการช่วยคิดที่ผมชอบใช้ และคิดว่าเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะใช้คิดดี หรือไม่ดีก็ตาม (แต่จริงๆแล้ว น่าจะเป็นทางแรกมากกว่า) นั่นคือ mind mapping หรือการเขียนผังความคิด หลักการของมันก็ไม่ยากครับ นั้นคือการเขียนวิธีคิดอย่างเป็นระบบนั่นเอง เพราะสมองเรานั้นบันทึกเรื่องราวอย่างมหาศาล แต่เวลาใช้งานมันจะสะเปะสะปะ
การใช้การเขียนลงบนหน้ากระดาษแผ่นเดียวนั้น จะช่วยให้สมองคิดได้อย่างลื่นไหลและเต็มประสิทธิภาพ พื้นฐานของสมองเรานั้น จะประกอบด้วยความจำที่แม่นยำกับจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด หรือที่เรามักเรียกว่าสมองซีกซ้ายกับขวานะครับ ทีนี้การทำงานให้ผสานกันทั้ง 2 ฝั่งไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่คิดเก่งกว่า ก็คือคนที่ดึงเอาทั้ง 2 ส่วนออกมาใช้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า
การเขียนผังความคิดนั้น ก็วิธีหนึ่งที่ช่วยบันทึกความคิดเพื่อให้เห็นภาพความคิดที่หลากหลาย ให้มุมมองที่กว้างและชัดเจนกว่าการบันทึกที่โดยยังไม่จัดระบบระเบียบความคิดใดๆ และยังเป็นวิธีการที่สอดคล้องกับโครงสร้างทางการคิดคนเรา ทั้งนี้เพราะคนเราในช่วงที่ Relax ที่สุดนั้น จะคิดไปตามจินตนาการเรื่อยเปื่อยมากๆ (แต่มีประโยชน์นะครับ) มันก็แตกกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อยๆ เหมือนต้นไม้ โดยมีฐานของการสร้างจินตนาการมาจากความทรงจำนั่นเองนะครับ
ทีนี้ก็มาถึงการสร้าง mind map นะครับ ง่ายก็ก็คือคิดอะไร ก็เขียน แล้วก็ลากเส้นสร้างความเชื่อมโยงความคิดที่สัมพันธ์กัน โดยปกติเขา(ผู้เขียนตำรา)จะใช้รูปวงกลมแทนความคิด และเส้นลูกศรแทนลักษณะและทิศทางของความสัมพันธ์นั้น แล้วก็มีคำกำกับในวงกลมว่าคิดอะไร เส้นลูกศรแทนความสัมพันธ์ในลักษณะและทิศทางใด ในบางครั้งมีการใช้การเน้นและแจกแจงเนื้อความด้วยสีและการวาดรูปประกอบ
ในการสร้าง mind map ตามตำรานั้นองค์ประกอบพื้นฐานที่เอามาเขียนก็จะได้แก่
1. การใช้สัญลักษณ์ เป็นการช่วยจำที่ง่ายและเร็วขึ้น อาจจะเป็นภาพง่ายๆ
2. ข้อความสั้นๆ ให้เข้าใจตรงกัน
3. เส้น เพื่อช่วยในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกัน
4. สี เพื่อเป็นการแยกแยะความสำคัญแต่ละประเด็น
5. ความสวยงามและสร้างสรรค์เพื่อให้เป็นที่ง่ายแก่ความเข้าใจในเวลาอันสั้น
MIND MAP สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เช่น การคิดภาพของงาน การแก้ปัญหา การระดมสมอง การบันทึกรายงานการประชุม ฯลฯ สารพัด้จะใช้งานมากมาย โดยเฉพาะการนำไปใช้ในการสร้าง idea และ concept ซึ่งนักออกแบบน่าจะได้ศีกษาไว้ เพื่อควบคุมจินตนาการไม่ให้หมดและไม่ให้เตลิดไปนะครับ ลองดูตัวอย่างจากภาพที่แนบมาได้ :) จะเอาสวยงามขนาดไหน ก็แล้วแต่ design เลยนะครับ


Mind map แบบง่ายๆ

Mind map สำหรับลดความอ้วน....

อันนี้ดูแนวๆดี เกี่ยวกับเรื่องการทำ internet radio

Friday, March 23, 2007

ALCOHOL KNOWLEDGE (1)

เครื่องดื่มประเภทที่มีแอลกอฮอล์
มารู้เรื่องราวของเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บ้างนะครับ ไม่ได้ว่าจะมาชักชวนให้เมามายกัน แต่เอาเป็นว่าเป็นความรู้อย่สงหนึ่งล่ะกัน โดยส่วนตัวแล้ว ผมเองชอบดื่มเหล้าหลายๆประเภท เพราะอยากลอง อยากรู้รสชาติของเครื่องดื่มต่างๆกัน เปรียบเสมือนการเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัฒนธรรมที่ต่างๆกัน สถานที่ที่ต่างๆไป เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้ ถือเป็นผลจากความสามารถสร้างสรรค์ของมนุษยชาติอย่างหนึ่งในการเปลี่ยนวัตถุดิบตามธรรมชาติที่มีในท้องถิ่นต่างๆ มาเป็นเครื่องดื่มที่สร้างความรื่นรมย์ให้แก่สังคม เมื่อเกรินมาคร่าวๆแล้ว ก็ขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยนะครับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ตามที่ค้นข้อมูลมา ผู้รู้เขาแบ่งประเถทหลักเป็น 2 ประเภท คือ
1. เมรัย หรือสุราแช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักบ่ม (Fermented)
2. สุรากลั่น คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มากจากการกลั่น (Distilled)

เมรัย หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมัก (Fermented) ก็คือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักเป็นสำคัญ เกิดจากกระบวนการของการเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้จากแป้ง หรือผลไม้ชนิดต่างๆ หมักจนได้เป็นแอลกอฮอล์ ซึ่งประเภทของเครื่องดื่มในกลุ่มนี้ สามารถแบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ได้แก่ เบียร์ (Beer) และไวน์ (Wine)

เบียร์
เบียร์ จัดเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า สุราแช่ หมายถึง มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมโดยที่แอลกอฮอล์นั้นได้มาจากการหมักบ่ม มิใช่โดยการกลั่น เบียร์ต่างจากไวน์ตรงที่การหมัก เบียร์เกิดจากการหมักน้ำตาลที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงแป้งของเมล็ดธัญพืช หรือธัญชาติประเภทข้าวมอลต์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับไวน์ และเหล้าวิสกี้ หรือบรั่นดี ประเภทของเบียร์นั้น ผู้รู้เขาจะแบ่งหลักๆตามประเภทของยีสต์ที่ใช้ในการหมักนะครับ โดยจะแบ่งเป็น 3 ปรเภทหลักๆ ได้แก่
1. เบียร์ที่ใช้ยีสต์หมักลอยผิว (top-fermenting yeast) คือ เชื้อยีสต์ที่จะลอยตัวอยู่ที่ผิวหน้าของเบียร์เมื่อเสร็จสิ้นการหมัก เบียร์ที่ได้จากการหมักโดยใช้ยีสต์ประเภทนี้ได้แก่ วีทเบียร์ (Wheat beer), ไวท์เบียร์ (White beer), อัลท์เบียร์ (Alt beer), เคิลช์ (Koelsch), เอล (Ale), พอร์ทเทอร์ (Porter) และสเตาท์ (Stout)
2. ใช้ยีสต์หมักนอนก้น (bottom-fermenting yeast) คือ เชื้อยีสต์ที่จะจมอยู่ที่ก้นภาชนะเมื่อเสร็จสิ้นการหมัก เบียร์ในกลุ่มนี้จะได้แก่พวกลาเกอร์เบียร์ (Lager beer), พิลเซ่นเบียร์ (Pilsen beer), เบียร์ดำ (dark beer), บ๊อคเบียร์ (Bock beer), ไอซ์เบียร์ (Ice beer), เบียร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ (Alcohol free beer)และ ไดเอ็ทเบียร์ (Diet beer) ซึ่งผมเองก็ดูคุ้นเคยกับเบียร์ในกลุ่มนี้มากที่สุด
3. ใช้ยีสต์ธรรมชาติ เป็นการใช้เชื้อยีสต์ตามธรรมชาติ ไม่ได้ใช้เชื้อที่เพาะเลี้ยงขึ้นมา เช่นเบียร์ Lambic จากประเทศเบลเยี่ยม (อันนี้ไม่เคยได้ดื่มจริงๆ ใครรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรบอกด้วย)



วันนี้ขอเท่านี้ก่อนละกัน แล้วมาอ่านตอนต่อไปนะครับ

Wednesday, March 21, 2007

Bicycle Lift??

รูปเหล่านี้ผมได้รับ forward mail มา อขากรู้เหมือนกันว่ามันที่ไหน แต่อยากปรบมือให้เจ้าของความคิดนี้จริงๆเลยนะครับ ใครรู้รายละเอียดช่วยเพิ่มเติมด้วย